พระกรณียกิจ ของ สุลต่านสุลัยมาน ชารีฟุดดิน

ระบบการปกครองและการชลประทาน

รายาในเมืองต่างๆ ข้างเคียงเมืองปัตตานีต่างก็เป็นพระสหายของสุลตาน สุลัยมาน ชารีฟุดดิน ทำให้การพิพาทเรื่องอาณาเขตในเมืองปัตตานีเกือบจะไม่มีเลยมีการทำระบบชลประทานเพื่อการเกษตรกรรมในเมืองปัตตานีอย่างมากมาย ปัตตานีในสมัยนั้นพัฒนาและการค้าเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองสงขลาภายใต้การปกครองของพระยาวิเชียรคีรี ซึ่งได้ใช้อำนาจการปกครองชนพื้นเมืองเดิมอย่างข่มแหงและมีการพยายามสร้างฐานอำนาจโดยการจับจองที่ดินจำนวนมากเพื่อให้ราษฎรเช่าทำมาหากิน(โดยอ้างว่าทำฮวงซุ้ย)ทำให้ราษฎรซึ่งเป็นชนพื้นเมืองหนีเข้ามาพึ่งพระบารมีของสุลตานสุลัยมาน ชารีฟุดดิน

ระบบการอำนวยความยุติธรรม

มีการจัดตั้งศาลตามแบบอย่างศาสนาอิสลามโดยมีดะโตะ ผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายอิสลามเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด ขึ้นซึ่งต่อมารัฐบาลสยามได้ยกเลิกศาลดังกล่าวและนำระบบศาลยุติธรรมาสมัยใหม่คือการอ้างน้ำหนักของหลักฐานทำให้ราษฎรในมณฑลปัตตานีซึ่งมีจำนวนน้อยมากที่ศึกษากฎหมายต้องแพ้คดีในศาลยุติธรรมนี้

การทำนุบำรุงศาสนา

พระองค์ให้ความสนใจในกิจการทางศาสนามาก และได้ก่อสร้างมัสญิดซึ่งเรียกว่า "มัสญิดรายา จะบังตีกอ" แต่ในขณะเดียวกันก็มิได้กีดกันบุคคลซึ่งต่างศาสนาและทรงให้ประกอบศาสนกิจตามศาสนาของตน